Deprecated: Methods with the same name as their class will not be constructors in a future version of PHP; plgContentGoogleCalendar has a deprecated constructor in /var/www/vhosts/accident.or.th/domains/accident.or.th/public_html/plugins/content/googlecalendar/googlecalendar.php on line 24
เขียนโดย Super User

         

วันที่ 28 ก.ค.62  จากกรณีที่มีผู้ขี่รถบิ๊กไบค์ อายุ 37 ปี ลูกชายค่ายเพลงดังพุ่งชนราวเหล็กกั้นสะพาน คอขาดจากร่างเสียชีวิต เป็นกระแสข่าวดัง สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นและอีกกรณีล่าสดคือ 2 หนุ่มขี่บิ๊กไบค์พุ่งชนป้ายข้างทางเสียชีวิตใกล้มหาวิทยาลัยย่านลาดกระบัง กทม. ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้ประสบเหตุทั้ง 2 กรณี แต่อยากฝากเตือนไปยังทุกครอบครัว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่กำลังคิดจะใช้รถจักรยานยนต์ จริงอยู่ที่รถบิ๊กไบค์มีประมาณการใช้น้อยกว่ารถจักยานยนต์ทั่วไป แต่จำนวนรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุภาพรวมสูงถึงร้อยละ 80 ส่วนคนเดินเท้าร้อยละ10 และรถจักรยานร้อยละ 1 โดยรถบิ๊กไบค์ก็อยู่รวมในประเภทรถจักยานยนต์นั้นอัตราการเกิดอุบัติเหตุไม่ค่อยสูงมากนัก แต่มีความร้ายแรงไม่น้อยไปกว่ารถประเภทอื่น
นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า รถบิ๊กไบค์ไม่เหมาะสมกับถนนที่มีความเสี่ยงตลอดสองข้างทาง เนื่องจาก 1.บิ๊กไบค์มีขนาดใหญ่ ต้องการการทรงตัวสูง หากนำมาใช้ในเมืองที่มีอุโมงค์ มีสะพาน ทางโค้ง ถือว่าอันตรายมาก รถบิ๊กไบค์เหมาะสมกับถนนประเภทแยกเลน 2. การขี่รถที่ต้องใช้ความเร็วสูงไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะถนนไม่ได้ออกแบบไว้จะเห็นได้จากการมีราวกั้น ทางโค้ง ตลาด ไม่เหมาะกับรถบิ๊กไบค์มาใช้ 3. ต้องมีทักษะการขับขี่สูง มีความชำนาญ ผ่านการฝึกฝน และมีการใช้เบรกที่ถูกต้อง เพราะจะส่งผลต่อการทรงตัวของรถ 4.รถขนาดใหญ่ มีขนาดปริมาณซีซีมาก หากนำมาขับบนถนนที่มีขอบทาง มีกันชนที่มีระยะห่างจากถนนแค่ 1 เมตร มีโอกาสสูงที่อุปกรณ์รถ เช่น ที่พักเท้า ที่เหยียบ ขาตั้ง จะเกี่ยวและกระแทกไหล่ทางสูงมาก ทำให้รถพลิกคว่ำได้
           “ ขอฝากไปยังเด็กและเยาวชน ลูกหลานทุกท่าน ที่คิดจะใช้รถจักรยานยนต์ทุกประเภท อยากให้รู้ว่าความรู้สึกของพ่อแม่ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องออกไป ให้เข้าใจว่าพ่อแม่ รักและห่วงใย อยากให้ลูกปลอดภัย และคุณในฐานะลูกได้ใส่ใจพ่อแม่มากน้อยแค่ไหน” นายพรหมมินทร์ กล่าว ทั้งนี้ อยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมและเข้มงวดให้มากขึ้น ซึ่งกฎหมายควบคุมความเร็วก็มีอยู่แล้ว แต่ยังขาดการบังคับใช้จริงจัง หรือนำเทคโนโลยีที่ออกแบบเหมาะสมกับการตรวจจับความเร็วรถจักรยายนต์มาบังคับใช้ร่วมกับรถใหญ่บนถนน นอกจากนี้อยากเสนอให้ผู้ที่จะใช้รถบิ๊กไบค์ควรเป็นผู้ที่มีทักษะ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะจะมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจสูงกว่า จะทำให้เกิดความปลอดภัยภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

 

0
0
0
s2smodern